ทำไมสินค้าถึงถูกตีกลับ?
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พัสดุถูกตีกลับ นั่นก็คือ ลูกค้าแจ้งที่อยู่ SF แล้วดีไซเนอร์จัดส่งพัสดุด้วยขนส่งที่ไม่ใช่ SF Express ไปยังลูกค้านั่นเอง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะทำยังไงดี เริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ เพราะจะต้องมีหลายคนสงสัยกันแน่นอน…
SF Address (ที่อยู่ SF) คืออะไร?
ชาวฮ่องกงบางคนไม่ค่อยอยากให้ส่งพัสดุไปยังที่บ้านนัก เพราะที่บ้านอาจจะไม่มีคนคอยรับพัสดุ จึงเช่าตู้ Locker เอาไว้เพื่อเป็นที่รับจดหมาย พัสดุ หรือเอกสารแทน แล้วจึงค่อยมารับพัสดุเมื่อมีเวลา ซึ่งหน้าตาของตู้ Locker ซึ่งเป็นที่อยู่ SF นั้นก็จะมีลักษณะเป็นเหมือนภาพด้านล่างนี้
ตัวอย่างที่อยู่ :
順便智能櫃H852H006P,九龍灣宏光道80號麗晶花園13座地下順便智能櫃(大堂出口右邊)+, KOWLOON, Hong Kong
ถ้าหากมีรหัสน่าสงสัยในที่อยู่ของลูกค้า ให้ดีไซเนอร์สงสัยก่อนเลยว่าเป็น SF Address สิ่งที่ดีไซเนอร์ต้องทำมีดังนี้
- สอบถามลูกค้าว่า สามารถแจ้งที่อยู่ของ “บ้าน” ของเขาได้หรือไม่ เพราะเราไม่ได้จัดส่งด้วย SF Express
- ***หากเราไม่ได้จัดส่งสินค้าผ่าน SF Express พัสดุจะถูกตีกลับมายังดีไซเนอร์ เนื่องจากไปรษณีย์ฮ่องกง ไม่สามารถจัดส่งไปยัง SF Address ได้
- ยืนยันและตรวจสอบที่อยู่ของลูกค้าว่าเป็นที่อยู่ “บ้าน” ของเขาจริงๆ และทำการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ตามที่อยู่ที่ลูกค้าแจ้ง
หากลูกค้าใส่ที่อยู่ SF และดีไซเนอร์จัดส่งตามที่อยู่นั้น
ทำให้ของถูกตีกลับ ควรทำอย่างไร?
หากลูกค้าไม่ได้แจ้งข้อมูลใดๆ แก่ดีไซเนอร์เลย แต่ให้ที่อยู่ SF address มา และดีไซเนอร์จัดส่งด้วยขนส่งอื่นที่ไม่ใช่ SF Express เมื่อพัสดุถูกตีกลับมายังดีไซเนอร์ กรณีนี้ถือว่าลูกค้าผิดที่ไม่แจ้งดีไซเนอร์ก่อนว่าเป็นที่อยู่ SF …ดีไซเนอร์ไม่ต้องรับผิดชอบค่าจัดส่งของลูกค้า ดีไซเนอร์สามารถส่งภาพด้านล่างนี้ให้กับลูกค้าได้ เพราะก่อนที่ลูกค้าจะชำระเงิน เรามีแจ้งเตือนให้กับลูกค้าก่อนชำระเงินเรียบร้อยแล้วว่า “หากคุณ (ลูกค้า) กรอกที่อยู่ SF กรุณาคอนเฟิร์มกับดีไซเนอร์ว่าใช้บริษัทจัดส่ง SF express หรือไม่ …เพราะหากดีไซเนอร์จัดส่งด้วยขนส่งอื่นๆ พัสดุจะถูกตีกลับ และลูกค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าจัดส่งของดีไซเนอร์”
สิ่งที่ดีไซเนอร์ต้องทำเมื่อได้รับพัสดุตีกลับมาแล้ว
1. ส่งภาพพัสดุที่ถูกตีกลับมาให้กับลูกค้า พร้อมแจ้งว่าเนื่องจากลูกค้าไม่ได้แจ้งว่าที่อยู่นี้เป็นที่อยู่ SF แต่ปกติเราจัดส่งด้วย Thailand post (หรือขนส่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ SF Express) พัสดุจึงถูกตีกลับ
2. ส่งตัวอย่างภาพด้านบนให้ลูกค้าดูว่า ระบบ Pinkoi ได้แจ้งลูกค้าไว้แล้ว ก่อนที่ลูกค้าจะทำการชำระเงิน
3. สอบถามลูกค้าว่ายังต้องการสินค้าหรือไม่ หากลูกค้ายังต้องการสินค้า ให้ดีไซเนอร์สร้างรายการ “ค่าจัดส่งส่วนเพิ่ม” กรอกค่าจัดส่งส่วนเพิ่ม และส่งลิงก์ให้ลูกค้าชำระเงิน พร้อมแจ้งให้ลูกค้าส่งที่อยู่ “บ้าน” ที่ไม่ใช่ที่อยู่ SF มาด้วย → เมื่อลูกค้าชำระเงินค่าจัดส่งส่วนเพิ่มและแจ้งที่อยู่ใหม่มาเรียบร้อย → ให้ดีไซเนอร์ทำการจัดส่งพัสดุตามที่อยู่ใหม่ที่ลูกค้าแจ้ง ผ่านไปรษณีย์ไทย (หรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ SF Express) → เสร็จสิ้นกระบวนการ
4. หากลูกค้าไม่ต้องการรับสินค้าแล้ว ให้ลูกค้ายื่นเรื่องขอคืนเงิน โดยดีไซเนอร์สามารถเรียกเก็บค่าจัดส่งจากลูกค้าได้ โดยแจ้งค่าจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าทางข้อความ สามารถเลือกคืนเงินเฉพาะค่าสินค้า หรือ คืนเงินโดยกำหนดจำนวนเงินเอง (ใส่จำนวนเงินที่จะคืนให้ลูกค้า) ทั้งนี้ควรพูดคุยกับลูกค้าเรื่องจำนวนเงินก่อนทำการคืนเงิน
ในทางตรงกันข้าม . . .
กรณีที่ลูกค้าแจ้งที่อยู่ SF Address พร้อมแจ้งดีไซเนอร์ว่า “นี่คือที่อยู่ SF ถ้าหากดีไซเนอร์ไม่ได้จัดส่งด้วย SF Express กรุณาตอบกลับเพื่อขอที่อยู่ใหม่กับลูกค้าก่อนจัดส่ง” เมื่อลูกค้ามีการแจ้งเตือนด้วยข้อความนี้มาแล้ว แต่ดีไซเนอร์ยังจัดส่งสินค้าไปให้ลูกค้าด้วยขนส่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ SF express ซึ่งแน่นอนว่าพัสดุจะถูกตีกลับมาอย่างแน่นอน ในกรณีนี้ดีไซเนอร์จะเป็นฝ่ายผิดเนื่องจากไม่สอบถามที่อยู่ที่แน่ชัดจากลูกค้า เพราะลูกค้าได้แจ้งเตือนดีไซเนอร์แล้ว ดังนั้นเมื่อลูกค้าต้องการขอคืนเงิน ดีไซเนอร์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าจัดส่งของลูกค้า (ไม่สามารถเรียกเก็บค่าจัดส่งจากลูกค้าได้)
**ดังนั้น ดีไซเนอร์ควรตรวจสอบข้อความที่ “หมายเหตุของลูกค้า” หรือ “กล่องข้อความ” เพื่อยืนยันที่อยู่ก่อนจัดส่งสินค้า (ดูภาพตัวอย่าง)
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ที่อยู่นี้คือที่อยู่ SF
(1) ตรวจสอบทาง website – แม้ว่าจะเป็นภาษาจีน แต่สามารถตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์นี้ https://htm.sf-express.com/hk/tc/dynamic_function/S.F.Network/EF-Locker/
(2) เมื่อสังเกตพบ รหัสโค้ดแปลกๆในที่อยู่ที่ลูกค้าแจ้งมา ให้สงสัยก่อนเลยว่าเป็น SF address เช่น 853UDL, H852H026P เป็นต้น หรือตัวอย่างที่อยู่แบบนี้ 順便智能櫃H852H006P, 九龍灣宏光道80號麗晶花園13座地下順便智能櫃(大堂出口右邊)+, KOWLOON, Hong Kong (SF address ชัวร์~)
(3) หากลูกค้าไม่ตอบกลับข้อความ กรุณาแจ้ง service team ให้ช่วยติดต่อลูกค้า
✦ 3.1) กรุณาแจ้งเรื่องไปที่ service@pinkoi.com ด้วยภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ เพื่อให้ Alice ทีมบริการลูกค้า สามารถช่วยดีไซเนอร์ทุกท่านอย่างรวดเร็ว จะมีรูปแบบการเขียนอีเมลที่ทีมงานแนะนำ
ชื่ออีเมล (Heading): Order Number: 20210323XXXXXX – Cannot contact customers (แจ้งปัญหาที่พบเป็นภาษาอังกฤษ) …
เนื้อหาอีเมล (Body): Order Number: 2021xxxxxxx
Tracking number (หมายเลขติดต่อพัสดุ): xxxxxxxxxx
Problems (ปัญหาที่พบเจอ): อธิบายปัญหาที่คุณพบเป็นภาษาอังกฤษ
✦ 3.2) แจ้งลูกค้าด้วยข้อความตามข้อมูลใน Q/A นี้ Link: https://pinkoi.life/OBb1Bh9905 ข้อความแจ้งลูกค้า: “Hi there, this order needs to be further discussed with you. We are waiting for your response. Please respond to this message before YYYY/MM/DD (ใส่วันเดือนปีที่ต้องการให้ลูกค้าตอบกลับ). If we do not receive a response from you before the specified date, it will be assumed that you authorize Pinkoi to process a refund for the order.”
★ ★ ★ ★
★ ★ ★ ★ ★
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับวิธีที่เรานำมาฝากวันนี้
ถ้าเราไม่อยากให้เกิดกรณีที่พัสดุถูกตีกลับจากฮ่องกงมาเก๊า ทั้งๆ ที่สินค้ายังไม่ถึงมือลูกค้าแล้วละก็ แนะนำว่าก่อนจัดส่งให้ยืนยันที่อยู่ให้ชัดเจนก่อนที่จะทำการจัดส่ง ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดก่อนจัดส่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องนี้ได้เยอะมากๆ ค่ะ
★
♥ เพื่อความรวดเร็วในการสอบถาม และอัปเดทข้อมูลข่าวสารกิจกรรม แคมเปญต่างๆ รบกวน add line สำหรับ Pinkoi Designer >> https://lin.ee/7frHrPv หรือทางอีเมล th-dr@pinkoi.com ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
Pinkoi Thailand Team