ถ้าพูดถึงงานเครื่องหนัง คุณจะนึกถึงอะไร?
เครื่องหนังเป็นวัสดุยอดนิยม ที่ถูกนำมาออกแบบเป็นกระเป๋า และสินค้าหนังมากมายนับไม่ถ้วน เป็นวัสดุหนังที่เสมือนมีชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สภาพแวดล้อม เป็นความงามที่หลากหลายและโดดเด่นในเวลาเดียวกัน
เพื่อนๆ คงได้เห็นงานดีไซน์หนังแท้ที่หลากหลายบน Pinkoi กันบ้างแล้ว ซึ่งแต่ละชิ้นงานนั้น มีเสน่ห์ดึงดูดที่ไม่ซ้ำกัน และวันนี้ Pinkoi จะพาทุกคนไปเยี่ยมชมเบื้องหลังผลผลิตของงานเครื่องหนังจากดีไซเนอร์มือโปร 5 แบรนด์ ไปดูกันว่าสองมือของพวกเขานั้นผลิตชิ้นงงานดีๆออกมาได้อย่างไร
Haohuo.lab: “เครื่องหนัง + งานปัก เพิ่มเสน่ห์ให้งานดีไซน์ไปอีกขั้น”
สตูดิโอสถานที่ที่สร้างสรรค์ผลงานของ Haohuo.lab ตั้งอยู่ที่เขต Yonghe ในไทเป และเป็นบ้านหลังอบอุ่นของคู่รักสายงานทำมือ Chili (เครื่องหนัง) และ Justin (งานไม้) ที่แม้ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ บรรยากาศอบอุ่น และการตกแต่งที่น่ารักภายในบ้านก็ยังคงเดิม
เมื่อพูดถึงจุดเริ่มต้นของการทำชิ้นงานเครื่องหนัง Chili หัวเราะพร้อมบอกว่าแรกเริ่มเป็นเพราะ Justin อยากเรียนเครื่องหนังทำมือ จึงไปสมัครเข้าร่วมเวิร์คช็อปทำเครื่องหนังด้วยกัน และด้วยความที่ Chili เป็นคนชอบงานแฮนเมดอยู่แล้ว และไม่ชอบทำอะไรเหมือนใคร เธอจึงมักขวนขวายสร้างสรรค์วิธีใหม่ๆในการผลิตชิ้นงานเครื่องหนังอยู่เสมอ ล่าสุดเธอได้ออกแบบและผลิตงานเครื่องหนังที่ให้ความรู้สึกน่ารักย้อนวัย ต่างจากงานเครื่องหนังทั่วไปที่จะดูเป็นผู้ใหญ่เสียมากกว่า
ซึ่งงานดีไซน์เครื่องน่ารักย้อนวัยเหล่านี้ เกิดจากความตั้งใจออกไอเดียใหม่ๆสำหรับคลาสเวิร์คช็อปแฮนเมดที่จัดขึ้น อย่างเช่น ที่ห้อยป้ายมินิกระบองเพชร ที่ร่วมมือดีไซน์กับแบรนด์ succuland ด้วยดีไซน์ที่น่ารักทำให้เวิร์คช็อป ครั้งนั้นฮอตฮิตจนต้องเปิดสอนยาวถึงครึ่งปีเลยทีเดียว มินิกระบองเพชรหนังน่ารักที่บวกกับงานปักมือทำให้อดใจไม่ซื้อไม่ได้จริงๆ
พวงกุญแจลูกแพร์ก็น่ารักไม่แพ้กัน ห้อยบนกระเป๋าก็ทำให้ดูน่ารักสดใสขึ้นมาทันที ขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปช่างดูพอดีกับการเก็บกุญแจ ยังมี ที่เก็บบัตรลูกโอ๊ค ที่มีกระดุมเปิดปิด พร้อมหนังสองสีที่ทำให้เหมือนลูกโอ๊คมากขึ้นไปอีก
และแน่นอนผลงานของ Huahuo.lab ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ กระเป๋าหนังย้อมกาแล็กซี่
งานดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Intersetlla ซึ่ง Chili ใช้สีฟ้าและสีม่วง ย้อมออกมาเป็นสีของกาแล็กซี่ โดยสลัดสีอะคริลิคสีขาวลงไปเป็นดาวระยิบระยับ และยังดาวสีเหลืองส่องแสงสว่างไสวที่เธอเย็บปักด้วยมือ
แรกเริ่มเป็นเพียงชิ้นงานที่ทำขึ้นพิเศษเพื่อเป็นรางวัลแจกให้แฟนๆ แต่ผลตอบรับก็ดีเกินคาด จนถึงตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในชิ้นงานที่ขายดีของสตูดิโอ Chili บอกว่ากระแสตอบรับนี้กลายเป็นกำลังใจที่ดี ให้คนที่เคยมองโลกในแง่ลบ เปลี่ยนเป็นคนที่กล้าจะเดินไปทางข้างหน้าที่กว้างใหญ่ 
Hsu & Daughter: “ใส่ความละเอียดและความรักลงในงานเครื่องหนัง”
เมื่อไปถึงสตูดิโอ Hsu & Daugther ที่ตั้งอยู่ Gongguan ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในร้านที่เปิดให้เห็นการทำงานในห้องครัวชัดๆ เมื่อมองผ่านหน้าต่าง จะเห็น 5 – 6 คนกำลังตั้งใจทำเครื่องหนังให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง
Wan Chun กล่าวว่า แบรนด์นี้อายุได้ 6 ปีแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะช่างฝีมือหลายคน แต่ที่นี่ไม่ใช้กระบวนการไลน์การผลิตแบบในโรงงานที่ทุกคนจะมีหน้าที่เฉพาะอย่าง แม้จะทำให้สินค้าเสร็จช้าหน่อย แต่การผลิตโดยให้ช่างฝีมือแต่ละคนเริ่มต้นทำชิ้นงานนั้นๆตั้งแต่ต้นจนจบ จะทำให้งานเครื่องหนังยิ่งดูมีเสน่ห์เฉพาะตัว
“แม้แต่สตูดิโอเครื่องหนังชื่อดัง Fugee ในญี่ปุ่น ยังใช้เวลาถึง 6 ปี ในการผลิตเครื่องหนัง ”
Wan Chun หลงรักสไตล์การทำงานและความใส่ใจในงานของ Fugee จนได้เดินทางไปสัมภาษณ์ถึงที่ และได้นำ Culture เหล่านั้นกลับมาประยุกต์ใช้กับสตูดิโอที่ไต้หวัน ลงทุนเทรนงานให้ช่างฝีมือทุกคน และช่างฝีมือทุกคนต้องให้ความร่วมมือในการแต่งตัวที่เหมาะสม ไม่วางอาหารเครื่องดื่มบนโต๊ะทำงาน อีกทั้งยังเชิญช่างฝีมือชื่อดังมาเปิดคอร์สสอนที่สตูดิโอ ถ่ายทอดเทคนิค “นำประสบการณ์ และอารมณ์ความรู้สึกใส่ลงในงานเครื่องหนัง”
กระเป๋าหนังใส่พาสปอร์ต ที่ดีไซเนอร์ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างการทำกระเพิ่มกระเป๋าเล็กเก็บเหรียญ ซิมการ์ด ที่จำเป็นสุดๆในวันเดินทางต่างประเทศ
ใช้เครื่องมือเชี่ยวชาญไดคัท
แบรนด์ Hsu & Daughterยึดมั่นในการใช้เครื่องหนัง Vegetable Tanned เท่านั้น และเข้มงวดในคุณภาพของชิ้นงาน ห้ามมีตำหนิ แม้มีการเย็บที่ไม่สวยงามเล็กน้อย ก็ต้องเย็บใหม่หมด ปัจจุบันสินค้าภายใต้แบรนด์มีแล้วกว่า 200 ชิ้น ซึ่งออกแบบแต่ละชิ้นงานให้มีความเรียบง่ายใช้งานได้ในทุกโอกาส
Murmur: “ธรรมชาติบำบัด”
รู้จักกับ Xiao Hou และ Xiao Ai สองดีไซเนอร์มานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาในสตูดิโอของพวกเขาที่ตั้งอยู่ Banqiao เราจะมาหาคำตอบกันว่าคอนเซ็ปงานหนังที่เป็นเหล่าต้นไม้นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากไหน 
“อันที่จริงแรกเริ่มไม่ได้คิดอะไรเลย” Xiao Hou บอกว่าเพียงเพราะตอนนี้ตัวเองเลี้ยงต้นเฟิน บวกกับมีเครื่องหนัง สีเข้มอยู่ เลยเอากรรไกรมาตัดตามรูปร่างต้นเฟิน แล้วทำเป็นต่างหูโฟสต์ลอินสตาแกรม ปรากฏว่าทุกคนให้ความสนใจอย่างมาก เพื่อนๆหลายคนก็ถามมาว่าขอซื้อต่อได้ไหม จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้มาทำต่างหูหนังวางจำหน่าย
หลังผ่านการลองผิดลองถูก สุดท้ายจึงเลือกใช้เครื่องหนังที่มีความบางลงมาหน่อย และออกแบบรูปทรงต้นไม้อื่นๆเป็นเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ murmur 
อาจเป็นเพราะวัยที่โตขึ้น เริ่มหลงรักพลังของต้นไม้ธรรมชาติแล้วสิ
นึกย้อนกลับไปสมัยก่อน เวลาเจอสวน หรือที่ที่มีต้นไม้สีเขียว ก็มักจะเดินผ่านไปเลยไม่สนใจอะไร แต่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น จังหวะชีวิตเริ่มกดดันมากขึ้น ก็ค่อยๆได้สัมผัสกับธรรมชาติบำบัด มองเห็นสิ่งดีดีและความสวยงามของธรรมชาติ
งานดีไซน์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นได้ย้ำในสิ่งที่พวกเธอเคยเขียนลงบนแฟนเพจของแบรนด์ murmur ว่า ให้จังหวะชีวิตดำเนินไปตามธรรมชาติอย่างช้าๆ และใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
Wooden Lotus Earring
“จริงๆแล้วต่างหูดอกไม้เป็นชิ้นงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด” ซึ่งก่อนที่ชิ้นงานนี้จะวางจำหน่าย พวกเธอได้ถามแฟนๆในอินสตาแกรมว่า ชอบขนาดแบบไหนมากกว่า ผลปรากฏทุกคนชอบขนาดที่เล็กที่สุด เมื่อวางจำหน่ายก็ขายได้ดีเลยทีเดียว “คงเพราะทุกคนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบด้วยน่ะค่ะ (หัวเราะ)” 
HEYOU Art&Craft Department: “ผมผลิตแต่สินค้าที่จะได้ใช้ในชีวิตประจำวัน”
เราเดินเข้าสตูดิโอ HEYOU Art&Craft Department ที่ตั้งเป็นเพื่อนบ้านกับร้านรองเท้า Dr.Sole แถว Songjian Nanjing Station ที่กำลังเปิดเพลงสไตล์ Rockability ที่ทำให้ต้องรีบปรับอารมณ์ไปเป็นสไตล์ old school และเราก็ได้นั่งคุยกับดีไซเนอร์ Jordan ที่ชอบแฟชั่นและเดินช็อปปิ้ง ถึงจุดเริ่มต้นของงานเครื่องหนังที่เริ่มต้นจากการที่เขาตามหางงานหนังที่เขาชอบไม่เจอเสียที
HEYOU ผู้รักในสไตล์ Retro, Nostalgia บวกกับความทรงจำเกี่ยวกับของใช้สมัยเป็นทหาร เขาจึงยืนหยัดในการใช้เครื่องหนัง Vegetable Tanned ที่คงลักษณะพิเศษของหนังไว้เสมอ และด้วยสีของหนังที่จะเปลี่ยนตามกาลเวลา ยิ่งแสดงถึงสไตล์ Vintage ออกมาได้ดี
เมื่อถามถึงคำนิยามของแบรนด์ที่อยู่มานาน 6 ปีแล้ว Jordan ตอบภาษาอังกฤษกลับมาหนึ่งคำ “Heritage”
“ผมไม่ทำสินค้าตามกระแส แต่ผมต้องการพิสูจน์ว่าชิ้นงานที่ผมทำออกมาสามารถตกทอดในกลุ่มผู้ชายได้ในทุกกาลเวลา”
นอกจากกระเป๋าหนังแล้ว ยังดีไซน์เป็นสินค้าอื่นๆ เช่น พวงกุญแจ เข็มขัด รวมถึงหมวกหนัง
“ไม่มีใครได้เห็นผมของผมมาหลายปีแล้ว” Jordan หัวเราะ เพราะก่อนเขาออกจากบ้านจะต้องหยิบหมวกมาสวมทุกครั้ง หมวกหนังของ HEYOU ออกแบบมาเป็นสไตล์เก่าๆ และยังเลือกหนังที่มีความแข็ง “ผมยังไม่เคยเห็นใครใช้หนังประเภทนี้ทำหมวก ผมอยากเป็นคนแรกที่ทำมัน”
ด้านหลังของ Jordan นั้นเต็มไปด้วยหนัง และผ้า ที่แขวนไว้ให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบ ซึ่งเขาชื่นชอบเครื่องหนังที่มีริ้วรอยธรรมชาติเล็กน้อย
สุดท้าย มาพูดถึงเข็มขัดหนังที่เป็นที่สนใจมากที่สุดกันดีกว่า
เป็นเข็มขัดที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก เข็มขัดสำหรับใส่ขี่ม้า ที่ให้ความรู้สึกย้อนกลับไปสมัยปี 1940 ที่นิยมขี่ม้ากัน จุดเด่นคือ ลายรอบเอวนั้นใช้หนังชิ้นเล็กๆกว่า 200 ชิ้น มาร้อยทับกัน นับว่าเป็นงานชิ้นโบว์แดงของ Jordan เลยล่ะ
Handboy CC: “รูปทรง และสีเป็นจุดแข็งของงานดีไซน์ของผม”
ต้องบอกเลยว่าดีไซเนอร์ Handboy CC เป็นดีไซเนอร์ทิ่ติดดินมากทีเดียว ไม่ค่อยจะเปิดเผยตัวให้เห็นสักเท่าไหร่ เมื่อมาถึงสตูดิโอที่อยู่แถว Yonghe ดีไซเนอร์ CC ก็ได้ต้อนรับเราเข้าไปในสตูดิโอลับของเขา
“ที่แท้คุณก็เป็นผู้ชาย!” เพื่อนของทีมงานเราพูดออกมาด้วยความเซอร์ไพรส์ เพราะเข้าใจมาตลอดว่าดีไซเนอร์จะเป็นผู้หญิงแมนๆ
แรกเริ่ม CC ทำเกี่ยวกับดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ และมักจะเข้าออกโรงงานโซฟาอยู่บ่อยๆ ช่างฝีมือที่โรงงานนั้นก็มักเอาเศษเครื่องหนังให้เขากลับไปเล่นอยู่บ่อยๆ จนสุดท้ายก็กลายเป็นงานหลักของเขาในปัจจุบัน 
CC บอกว่าสมัยเขาหนุ่มๆ เขามักจะใส่สไตล์แบรนด์ของ Goro’s, Visvim ออกจากบ้าน จึงนำเอาความชอบในสไตล์นั้นมาใส่ไว้ในผลงานของเขา
“ผมไม่ค่อยชอบของที่แต่งเติมมากจนเกินไป”
CC ยังเป็นดีไซเนอร์หนุ่มที่ละเอียดกับการทำงานเครื่องหนังมาก ซึ่งงานของเขาต้องเก็บมุมเนียบเสมอ
กระเป๋าที่ได้ชื่อว่า ผู้ช่วยผู้ผจญภัย
งานดีไซน์ที่เริ่มต้นจากความชอบของตัวเอง แรกเริ่มคิดว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่า 90% คือลูกค้าผู้หญิง และบางครั้งบางสินค้าที่คิดว่าจะขายดี ก็กลายเป็นว่าเป็นที่นิยม ผ่านการลองผิดลองถูกประสบการณ์ต่างๆจนประสบความสำเร็จในที่สุด แม้ว่าเขาจะมีความชอบและแนวของงานที่ต้องการ แต่เขาก็ยังเหลือพื้นที่ 20% ของการดีไซน์ให้เข้ากับเทรนด์ในตลาด
งานดีไซน์มีจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือรักในงานเครื่องหนัง แล้วคุณล่ะ คุณชอบงานหนังแบบไหน หรือเป็นแฟนคลับของดีไซเนอร์คนไหนอยู่หรือเปล่า?
