จากความตั้งใจในการออกแบบสิ่งของที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นสินค้าโปรดักส์ประเภทไหน แค่ชอบที่จะ play around ไปเรื่อยๆ และใส่ความเป็นตัวตนลงไปในของใช้ของเราเอง นั่นคือความตั้งใจแรกเริ่มของ ease around ที่วันนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับแบรนด์ของตัวเอง
จุดเริ่มต้นของ ease around
ease around เริ่มต้นด้วยความคิดเล็กๆ แต่ความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่ ที่อยากให้สิ่งของรอบๆ ตัวของเรา มีดีไซน์ในแบบที่เราชอบ ทั้งสิ่งของต่างๆ ในมุมต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนหรือบนโต๊ะทำงาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราในวัยกำลังจะเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวได้ใช้เวลาร่วมด้วยเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นจึงเริ่มออกแบบดีไซน์และไม่รอช้าที่จะลองผลิตเพื่อใช้เอง หรือใช้เป็นของขวัญให้เพื่อนๆ จนได้มีโอกาสวางจำหน่ายในเวลาต่อมา
แรงบันดาลใจของ ease around ส่วนใหญ่มาจากหนังหรือภาพยนตร์ต่างๆ หากเปรียบ ease around เป็นม้วนฟิล์มที่ค่อยๆ หมุนและกำลังฉายให้แรงบันดาลใจใครต่อใครอยู่ ก็น่าจะนึกถึงเรื่อง Amélie (2001) เพราะสนใจในการหาความสุขง่ายๆ จากสิ่งเล็กๆ ของ Amelie นางเอกของเรื่อง ซึ่งชอบกระทำความน่ารัก ความสดใสและใจดีกับสิ่งรอบๆ ตัวของเธอ โดยไม่ลืมที่จะมีความสุขไปด้วย เช่น การจุ่มมือของเธอลงไปในกระสอบธัญพืช การโยนหินให้เด้งบนผิวน้ำ หรือการบรรยายความงามของเส้นทางที่เดินให้คนตาบอดได้เห็น คิดว่า ease around เปรียบเสมือนหนังเรื่องนี้ แต่เป็นอีกมุมหนึ่ง เป็นในมุมที่ ease around ตั้งใจอยากเป็นผู้กระทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความสุขง่ายๆ ให้กับคนที่พบเห็นได้เสมอ
จากจุดเล็กๆ ของคาแรคเตอร์เด็กหญิงสู่การเติบโตของคาร์แรกเตอร์และแบรนด์ของเธอ เมื่อก่อนมีสินค้าที่เป็นกระเป๋าที่เล่าเรื่องราวถึงอายุ 25 สอดคล้องกับคำพูดของผู้กำกับหว่องกาไว ที่เคยฝากไว้สำหรับคนอายุ 20 ที่ยังหนุ่มไป แต่อายุ 25 เป็นช่วงที่ดีและเป็น golden age ของชีวิต เลยอยากรู้ว่าช่วงอายุ 25 ปีของ ease around เป็นอย่างไรและถือว่าเป็นผู้ใหญ่หรือยัง?
คุณตาลเลือกเลข 25 มาเป็นคีย์ของการคิดคอนเซปต์ของกระเป๋าใบนี้ เพราะคุณตาลและคุณป้อผู้ร่วมปลุกปั้นแบรนด์นี้ล้วนอายุ 25 ในปี 2018 พอดี ต่างก็เห็นด้วยว่าช่วงอายุ 25 เป็นช่วงอายุที่สำคัญ เรียกว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สวยงามมากๆ ที่ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์ อีกทั้งเป็นช่วงปลายของความเป็นวัยรุ่น ที่มีความสดใหม่ รวดเร็ว รุ่มร้อน ทะเยอะทะยาน และกำลังเชื่อมเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเนิบช้า สุขุม ครุ่นคิด และปล่อยวาง คุณตาลมองว่าเป็นวัยที่คาบเกี่ยวอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นวัยรุ่นและความเป็นผู้ใหญ่ และตั้งใจอยากจะรักษาลักษณะเฉพาะของทั้งสองวัยนี้ไว้ในตัวเราให้ได้
หลายคนอาจจะได้เห็นงานดีไซน์คอลเลกชั่นใหม่กันไปบ้างแล้ว อย่าเพิ่งเลิกรักเด็กผู้หญิงคนเดิม เพิ่มเติมคือให้เปิดใจกับงานดีไซน์ชิ้นใหม่ เพราะหลังจากนี้คุณตาลมีแผนในการทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นอย่างที่ตั้งใจไว้ ว่าจะไม่จำกัดรูปแบบหรือประเภทของสินค้าที่จะทำ เพราะยังรู้สึกว่าอยาก play around ไปกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ แต่คุณตาลก็จะยังคงยึดทิศทางที่ตั้งใจไว้ในตอนเริ่มทำ ease around คือ อยากทำให้พื้นที่รอบๆ ตัวของทุกคนรายล้อมไปด้วยงานดีไซน์ที่ชอบ เพื่อบรรเทาทุกข์และทำให้ทุกวันเป็นวันที่ดีด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยให้กับทุกคนได้ มาเติบโตและเป็นกำลังใจให้กันและกันต่อไปนะ
…หลายคนอาจจะกำลังเดินทางเข้าสู่ถนนสายผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว หรือหลายคนอาจจะกำลังโบกมือลาช่วงชีวิตวัยรุ่น แล้วกำลังหักเลี้ยวสู่ถนนแห่งช่วงชีวิตใหม่ แต่เชื่อเถอะ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงชีวิตวัยไหน คุณก็จะสามารถรักษาความรู้สึกของสองช่วงวัยนี้เอาไว้ได้ ทว่าเพราะเราต้องเติบโตในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความสดใสเอาไว้ ถ้ามันดีทั้งสองช่วงวัย ทำไมเราจะเป็นผู้ใหญ่ที่ยังมีหัวใจเด็กอย่าง ease around ไม่ได้ล่ะ จริงไหม ?
รักษาสมดุลของช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ที่กำลังจะเดินทางมาถึงด้วยสินค้าแนะนำบน Pinkoi
ที่ผู้ใหญ่หัวใจเด็กอย่างคุณไม่ควรพลาด!
ease around : https://th.pinkoi.com/store/easearound?ref_itemlist=arVSXDjY