ไต้หวันไม่ได้มีแค่ดื่มชานมไข่มุก ช็อปซีเหมินติง หรือขอพรวัดหลงซาน แต่ยังมีกิจกรรมปีนเขา ที่จะพาคุณไปสัมผัสธรรมชาติ และหลงรักไต้หวันในที่สุด
ตอนนี้ไต้หวันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับใครหลาย ๆ คน ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต นอกจากชานมไข่มุกที่ต้องดื่ม ซีเหมินที่ต้องเดินช็อป หรือวัดหลงซานที่ต้องไปขอเรื่องความรักให้ได้ วันนี้เราจะมารีวิว 3 สถานที่ลุย ๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศเป็นพิชิตเขาในไต้หวันกัน กายพร้อม ใจพร้อม ที่สำคัญชุดและไอเทมติดตัวก็พร้อม ไปปีนเขากันเลย!
1. เขาช้าง Xiangshan Elephant Mountain (象山)
เขาช้างน่าจะเป็นชื่อภูเขาที่ใครหลาย ๆ คนเคยได้ยิน หรือได้ไปมาบ้างแล้ว ถือว่าเป็นเขายอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบไปกัน จริง ๆ แล้ว ภูเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา 4 อสูร ที่มีภูเขาสี่ลูกติดกัน คือ ภูเขาช้าง(Elephant Mountain), ภูเขาเสือ(Tiger Mountain), ภูเขาสิงโต(Lion Mountain) และ ภูเขาเสือดาว(Leopard Mountain) การปีนเขาช้างแม้จะไม่ยากที่สุด แต่ก็เหนื่อยเอาเรื่องกับความชันของบันได ที่ต้องพักเป็นระยะ ๆเขาช้างเป็นจุดชมวิวเมืองไทเปที่ดีจุดหนึ่ง เพราะคุณจะได้เห็นตึก 101 ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองไทเป ไม่ว่าจะวิวยามแสงแดดอ่อนๆ หรือวิวแสงสีจากตึกยามค่ำ ก็เป็นวิวที่ถ่ายออกมาแล้วสวยงามจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่มีนักท่องเที่ยว และช่างถ่ายภาพมากมายพากันมาตั้งกล้องแชะภาพ ช่วงเวลาที่ฮิตมากันมากที่สุดเห็นจะเป็น วันเคาท์ดาวน์ที่ทุกคนจะพากันปีนเขาปาดเหงื่อ เพื่อขึ้นมาจับจองที่นั่ง ตากลมหนาวรอชมพลุที่จุดออกมาจากตัวตึก 101 มากับแฟนก็โรแมนติก มากับเพื่อนก็สนุก มากับครอบครัวก็อบอุ่น ไม่ควรพลาดจริง ๆ
2. หยางหมิงซาน Yangmingshan National Park (陽明山國家公園)
หยางหมิงซานเป็นอีกหนึ่งเขาที่ชาวไทเปเองก็ชอบไปปีนในวันหยุดพักผ่อน ที่นี่เป็นทั้งอุทยานแห่งชาติมีดอกไม้สวย ๆ ให้ชมกันทุกฤดูกาล เป็นทั้งสถานที่ปีนเขายอดฮิต วันนี้เราขอรีวิว เขาเจ็ดดาว หรือชีซิงซาน (七星山) ซึ่งอยูในเขตอุทยานแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งเขาที่ใช้พลังงานมากจริง ๆ บางคน ปีนได้ 10 นาทีก็ยอมแพ้ ขอกลับไปนั่งรถรับบัสที่วิ่งในเขตอุทยาน แต่ถ้าใครได้ปีนขึ้นไปจนถึงยอดของมันจะต้องร้องว้าวกับวิวภูเขาสีเขียวผืนใหญ่ที่อยู่รายล้อมรอบตัว แค่ที่นี่ที่เดียวก็แชะภาพไปหลายร้อยรูปแล้ว เพราะมุมไหน ๆ ก็สวยไปหมด ต้องมาลองปีนกันสักครั้ง
ไม่ต้องห่วงภูเขาลูกนี้มีจุดให้พักหายใจอยู่บ้าง อย่าลืมพกน้ำติดตัว กับกระเป๋าเป้สะพายหลังใส่เสบียงมาบ้าง เหงื่อออกอย่างนี้ต้องหิวแน่นอน กับรองเท้าที่รับรองว่าเท้าตัวเองจะไม่เจ็บ ที่สำคัญคือเตรียมแบตกล้องแบตมือถือให้พร้อม เพราะคุณจะต้องถ่ายตลอดทางแน่ ๆ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ไปลุยเลย!
3. เหอฮวนซาน Hehuanshan (合歡山) ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่หนึ่งในใจของแอดมินเลย เพราะเป็นสถานที่ที่สวยงามมากจริง ๆ ถ้าดูจากแผนที่ไต้หวันจะพบว่าภูเขาลูกนี้อยู่เกือบจุดศูนย์กลางของประเทศเลย และเพราะความที่มันสวยมากนี่แหละ ต้องแลกมากับการเดินทางที่แสนเหนื่อย (สำหรับคนที่ไม่มีรถขับ หรือไม่ได้เหมารถเที่ยว) เดินทางจากไทเป ต้องขึ้นรถไฟ เปลี่ยนรถบัส รวมๆแล้วก็กินเวลาครึ่งวันเลยทีเดียว แถมรถบัสที่ขึ้นเขานั้นก็มีแค่วันละรอบเท่านั้น! ใครที่อยากจะไป ต้องวางแผนให้ดีดีเลยล่ะ แต่รับรองเลยว่าขึ้นไปอยู่บนนั้นแล้วจะได้เต็มอิ่มกับความงามของบรรยากาศแน่นอนในรูปภาพเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนซึ่งไม่ได้อยู่ในฤดูหนาว แต่ขอบอกเลยว่าอากาศหนาวในระดับนึงจนต้องมีเสื้อคลุมหนาๆ หมวกไหมพรมสักอัน ผ้าพันคอสักผืน แน่นอนว่ารองเท้าต้องเป็นรองเท้าที่ทนอึดแต่สบายเท้า ชุดข้างในก็ต้องใส่ให้ทะมัดทะแมงพร้อมลุยกับการปีนเขาที่ยากกว่าเขาช้าง และหยางหมิงซานหลายเท่า!
ที่บอกว่ายากไม่ใช่แค่เพราะลักษณะเขาที่ปีนลำบาก แต่บวกกับสภาพอากาศบนนั้นคุณจะอยู่ด้วยความรู้สึกเหมือนจะขาดออกซิเจนตลอดเวลา เราขอเตือนเลยว่า ไปเขานี้ต้องเตรียมกาย ใจ และของติดติวให้พร้อมที่สุด เนื่องจากเขานี้อยู่ในจุดที่สูงติดอันดับต้นๆของไต้หวัน (ความสูง 3,xxx – 3,5xx เมตรจากระดับน้ำทะเล) คุณอาจจะเกิดอาการปวดหัว เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ดังนั้นก่อนไปควรศึกษาให้ดีว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างนี่คือที่พักเพียงแห่งเดียวในบริเวณเขาเหอฮวนซานนี้ แน่นอนว่าห้องมีจำกัด จะมาทริปนี้ นอกจากต้องเตรียมพร้อมทั้งกายและใจแล้ว ต้องกดจองที่พักให้ได้ก่อน โรงแรมแบ่งเป็นสองที่ แอดมินได้ที่ที่อยู่ไกลจากที่ลงรถมานิดนึง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาว Backpacker พักกัน เพราะทุกห้องมีแค่ฟูก(ไฟฟ้า)และผ้าห่มต่อหนึ่งคน แถมยังโชคดีได้ห้องที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากในห้องด้วย แบบนี้จะไม่ให้ยกเป็นที่หนึ่งในใจได้ยังไงล่ะ
เลือกกันได้แล้วหรือยังว่าทริปไต้หวันครั้งหน้าจะไปปีนเขาที่ไหนกัน แต่อย่าลืมเตรียมไอเทมให้พร้อมสำหรับการปีนเขาด้วยนะ เพื่อความปลอดภัย จะได้สนุกไปทั้งทริป!