“มุ่งมั่นสร้างชุมชนงานดีไซน์เอเชียให้แข็งแกร่งและทำให้คุณค่าของงานออกแบบกลายเป็นค่านิยมสากล ยังคงเป็นความตั้งใจและเป้าหมายของ Pinkoi เสมอมา ตลอดระยะเวลา 10 ปี Pinkoi ได้เชื่อมดีไซเนอร์เอเชียและผู้สนใจงานสร้างสรรค์เข้าด้วยกันผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายงานดีไซน์ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับงานออกแบบตลอดจนให้งานออกแบบกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน”
ปี 2019 Pinkoi ได้เริ่มต้นทศวรรษใหม่ด้วยการเปลี่ยน Brand identity ของแบรนด์เป็นสี Navy blue พร้อมกับเจตจำนงที่มุ่งมั่นสร้างชุมชนงานดีไซน์เอเชียที่แข็งแกร่งและทำให้คุณค่าของงานออกแบบกลายเป็นค่านิยมสากล (Universal values) ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Pinkoi ได้เชื่อมดีไซเนอร์เอเชียและผู้สนใจงานสร้างสรรค์เข้าด้วยกันผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายงานดีไซน์ โดยเป้าหมายต่อจากนี้ของ Pinkoi คือการทำให้แบรนด์ของดีไซเนอร์เติบโตและมีพลังมากยิ่งขึ้น
ปี 2022 Pinkoi จับมือ Shopping Design ร่วมปลดปล่อยพลังแห่งการสร้างสรรค์ จัดโครงการประกวดรางวัล Pinkoi Design Award เชิญชวนดีไซเนอร์จากไทย ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น และจีนร่วมส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดยได้รับเกียรติจากกรรมการผู้ทรงคุณวุติ 5 ท่านจากวงการออกแบบ นิทรรศการ และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น Johnason Lo ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเร็กเตอร์จาก JL DESIGN และ CBO แห่ง Good Finance Securities จากไต้หวัน, Yu Yamada Buyer/Curator จาก method inc. ญี่ปุ่น, Javin Mo ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดด้านการออกแบบ Milkxhake จากฮ่องกง, Ark Hsieh ผู้บริหารบริษัทตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์ออกแบบ NEWTIME จากจีน และคุณมณฑิณี ยงวิกุล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) จากไทย มาร่วมเฟ้นหางานออกแบบที่หลอมรวมดีไซน์และธุรกิจเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เพื่อเชิดชูผู้สร้างสรรค์งานออกแบบ รวมถึงส่งเสริมให้ดีไซเนอร์ร่วมกันผลักดันการเปลี่ยนงานออกแบบให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
Peter Yen ผู้ก่อตั้ง Pinkoi เล่าว่า 10 ปีที่แล้วที่คนเอเชียยังคงรู้สึกว่างานออกแบบและศิลปะเป็นเรื่องไกลตัวและไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากเช่นทุกวันนี้ ตอนนั้น Peter ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้งานออกแบบกลายเป็นค่านิยมสากล เข้าถึงง่าย และเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของทุกคนให้ได้ จึงได้ก่อตั้ง Pinkoi ขึ้นมาในปี 2011 ซึ่งขณะนั้นทั้งเว็บไซต์มีเพียง 50 แบรนด์เท่านั้น ปัจจุบัน Pinkoi ได้รวบรวมแบรนด์ดีไซน์จากไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง/มาเก๊า ไทย และจีนได้มากกว่า 35,000 แบรนด์แล้ว
จากการพัฒนาแพลตฟอร์มมาเรื่อยๆ Pinkoi พบว่าการจะสร้างระบบนิเวศที่ดีได้นั้น นอกจากต้องวางรากฐานให้มั่นคงแล้วยังต้องสร้างยอดเขาด้วยการสนับสนุนและผลักดันให้ดีไซเนอร์ปรับขยายแบรนด์และพัฒนาสู่ความเป็นสากล โดยการหลอมรวมดีไซน์และธุรกิจเข้าด้วยกัน เพื่อให้งานออกแบบกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และนี่ก็คือเป้าหมายต่อไปของ Pinkoi
นอกจากแพลตฟอร์มและทรัพยากรทางการตลาดแล้ว Pinkoi ยังพยายามมอบทรัพยากรสำคัญที่จำเป็นต่อการเติบโตของแบรนด์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรหรือประสบการณ์ เพื่อลดต้นทุนเวลาและค่าใช้จ่ายในการคลำทางและทดลองของดีไซเนอร์ เช่น จัดให้มีวิทยากรและแหล่งทรัพยากรข้อมูลให้กับสมาชิกพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วม พร้อมให้คำแนะนำการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ตลอดจนการจัดการทางการเงินและการวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถสะสมเงินทุนที่จำเป็นต่อกระบวนการเติบโตและเป็นแบรนด์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
Abby ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศกล่าวว่า “การพัฒนาแบรนด์เปรียบเสมือนการปืนเขา มีหลากหลายเส้นทางให้เราเลือกเดินเพื่อไปยังยอดเขา Pinkoi ไม่ได้บอกแบรนด์ว่าต้องเดินทางไหน แต่จะมอบเครื่องมือและทรัพยากร เพื่อให้แบรนด์มีโอกาสเติบโตและค้นพบความเป็นไปได้ของตัวเองอย่างอิสระในระหว่างทาง”
ต้นปี 2022 Pinkoi ได้จัดการประกวดรางวัล Pinkoi Design Award ครั้งที่ 1 ขึ้นมา โดยตัดสินรางวัลจาก “ดีไซน์และคุณภาพ ศักยภาพเชิงธุรกิจ และคุณค่าของแบรนด์” Abby อธิบายว่า “ในอดีตงานออกแบบมักเน้นไปที่ดีไซน์และความสวยงามเป็นหลัก แต่เมื่อกลายเป็นแบรนด์จึงทำให้ต้องก้าวสู่ตลาดธุรกิจ การผสานแนวคิดการออกแบบและกระบวนการคิดเชิงธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างไรจึงจะทำให้ผู้บริโภคพอใจจึงเป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องทำอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
“ใบสั่งซื้อของลูกค้าก็เหมือนการลงคะแนน เป็นตัวตัดสินว่าแบรนด์สามารถอยู่ในตลาดได้จริงหรือไม่” ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ – Abby
ปี 2020 ที่ผ่านมา การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น Pinkoi พบว่านอกจากการสั่งซื้อภายในประเทศแล้ว ใบสั่งซื้อจากฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า
“สถานการณ์ในปัจจุบันบีบบังคับให้ผู้บริโภคต้องหันมาใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์อย่างไม่อาจเลี่ยงได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับการเติบโตของแบรนด์ และเราเองก็ได้สนับสนุนรวมถึงผลักดันให้ดีไซเนอร์ทำการตลาดในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ด้วยการแนะนำให้แบรนด์เพิ่มคำอธิบายไปเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น รวมถึงตั้งค่าการจัดส่งไปต่างประเทศ ฯลฯ”
หมุดหมายต่อไปของ Pinkoi คือ การผลักดันให้แบรนด์ก้าวเข้าสู่ตลาดธุรกิจอย่างราบรื่นผ่านกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น IP Collaboration การร่วมมือแบบข้ามสสายประเภทธุรกิจ และการวางแผนการตลาดในต่างประเทศ รวมถึงเชิญชวนให้แบรนด์มาร่วมกันเปลี่ยนงานออกแบบให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้