อยากขยายกลุ่มลูกค้าไปต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ~ 5 สิ่งสำคัญ เมื่อแบรนด์ไทย อยากขายของออนไลน์ไปต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม Pinkoi ที่จัดให้แบรนด์ไทยหรือผู้ประกอบการไทยอย่างครบครัน เจาะตลาดกลุ่มลูกค้า ไต้หวัน ฮ่องกงมาเก๊า ญี่ปุ่น จีน หรือในไทยเองก็ทำได้สบายๆ
ท่ามกลางเศรษฐกิจในเมืองไทยที่ซบเซา จากทั้งการเมืองและโรคระบาด Covid-19 หลายๆคนกำลังมองหาทางออกในการสร้างรายได้เสริมหลังเลิกงาน รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจในไทยที่กำลังมองหาลู่ทางเพื่อขยายแบรนด์ไปหากลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีกำลังซื้อสูงกว่า …กลุ่มลูกค้าต่างชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของหลายๆ คน
คุณอาจจะคิดว่าการขายของออนไลน์ไปต่างประเทศนั้นไกลเกินเอื้อม ต้องมีกำลังทรัพย์สูงในการส่งออกสินค้า และมีความยุ่งยากในการจัดการ แถมยังมีเรื่องของพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าในประเทศนั้นๆ รวมไปถึงกำแพงด้านภาษาที่เราไม่มีความเชี่ยวชาญอีกด้วย ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งท้อและหมดหวังในลู่ทางแห่งอนาคตนี้เลยค่ะ ! ..เพราะในยุคที่เรามีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเรา ได้มอบโอกาสที่ดีสำหรับคุณในการขายสินค้าแบรนด์ไทยของคุณไปยังต่างประเทศได้อย่างสบายๆ
เทคโนโลยีที่ว่านั้นคือ Marketplace platform หรือ “ตลาดนัดออนไลน์” นั่นเอง ~ ฟังดูคุ้นหูใช่มั้ยคะ วันนี้ทีมงานเลยจะมาแนะนำแพลตฟอร์มหนึ่งที่คุณสามารถขายสินค้าดีไซน์ของคุณไปยังกลุ่มลูกค้าเอเชียเช่น ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และอีกหลายๆ ประเทศ ได้อย่างสะดวกพร้อมกับตัวช่วยมากมายที่ช่วยในการขยายกลุ่มลูกค้าโดยไม่มีอะไรมากั้น ! …แพลตฟอร์มนั้นก็คือ “Pinkoi” (อ่านว่า พิน-คอย) นั่นเองค่ะ
Pinkoi.com เป็นเว็บไซต์ซื้อขายงานดีไซน์เอเชีย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าดีไซน์ ไฟล์กราฟฟิก ไปจนถึงคลาสเวิร์คช็อป เรารวบรวมดีไซเนอร์คุณภาพจากทั้งในและนอกประเทศ มุ่งมั่นในงานดีไซน์ที่ดี มีเอกลักษณ์พิเศษ ทั้งยังเหมาะเป็นของขวัญไม่ซ้ำใคร เติมเต็มชีวิตในแบบที่ต้องการด้วยงานดีไซน์ …ซึ่ง “ดีไซเนอร์” ที่ว่ามา ก็คือเจ้าของแบรนด์หรือเจ้าของกิจการนั่นเอง !
*คุณสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Pinkoi เพิ่มเติมได้ ที่นี่ *
นอกจากการมี Platform ดีๆ นี้แล้วคุณยังต้องมีอะไรอีกในการขายสินค้าไปต่างประเทศ ทีมงานได้สรุปมาทั้งหมด 5 สิ่งสำคัญ เมื่อแบรนด์ไทยอยากขายของออนไลน์ไปต่างประเทศ บุกตลาดเอเชีย ลุยไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ที่ Pinkoi จัดให้คุณแบบครบๆ สนับสนุนคุณเต็มที่ในทุกๆด้าน เพื่อความสะดวกสบายในการขายสินค้า และขยายตลาดกลุ่มลูกค้า ให้แบรนด์ของคุณเติบโตไปด้วยกันกับ Pinkoi
หากคุณสนใจ ช่วงนี้สามารถอ่านรายละเอียดและสมัครลงขายสินค้า (ฟรี) บน Pinkoi ได้ที่นี่
1/ การมีช่องทางการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซท์, โซเชียลมีเดียยอดนิยมในแต่ละประเทศ ช่องทางการโปรโมทแบรนด์ผ่านสื่อ (media) และ Influencer ชื่อดังของต่างประเทศ
เว็บไซท์ pinkoi.com มีสมาชิกมากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก มีสินค้าดีไซน์มากกว่า 1.9 ล้านชิ้น และสินค้าถูกจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 11.9 ล้านชิ้น และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการลงขายสินค้าบนแพลทฟอร์ม Pinkoi ที่เป็นศูนย์รวมสมาชิกที่สนับสนุนและชื่นชอบที่จะเติมเต็มชีวิตในแบบที่ต้องการด้วยสินค้าดีไซน์ จึงเป็นช่องทางหนึ่งในการทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักกับกลุ่มคนเหล่านี้
ไม่เพียงเท่านั้น การเข้าร่วมแคมเปญกับ Pinkoi เราจะมีการคัดเลือกแบรนด์ไทยไปโปรโมทผ่านสื่อชื่อดังในต่างประเทศที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เช่น Elle Taiwan, PopDaily, PRTimes หรือ LineToday เป็นต้น
Pinkoi ยังมีช่องทางการโปรโมทของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดียที่ผู้ติดตามของเราเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบสินค้าดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ มีเรื่องราว และไม่ซ้ำใคร เช่น Instagram: ilovepinkoi ของฝั่งไต้หวันที่มีผู้ติดตามมากกว่า 136K คน, Instagram: pinkoi_hk ของฝั่งฮ่องกงและไทย IG: pinkoi_th
จะเห็นได้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาจีนก็สามารถทำให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเหล่านี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่มีสินค้า และเรื่องราวที่น่าสนใจ ก็เป็นส่วนหนึ่งให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีก
Facebook: Pinkoi ฝั่งไต้หวันที่มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคน ฝั่งฮ่องกง ญี่ปุ่นและไทยก็มีเช่นกัน
หรือบนช่องทาง Twitter: @PinkoiJP ฝั่งญี่ปุ่นที่ Buzz สุดๆ ช่วยสร้างกระแส viral ได้เป็นอย่างดี
นอกจากการโปรโมทแบรนด์ไทยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ Pinkoi แล้ว การโปรโมทผ่าน KOL หรือ Influencer ในช่วงเวลาแคมเปญก็ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักกับบรรดา followers ของพวกเขา ทั้งจากการรีวิวด้วยตัวเองและการสปอนเซอร์สินค้าให้กับ KOL (Key Opinion Leader) ซึ่งผู้นำด้านเทรนด์และมีอิทธพลต่อความคิด และพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ตัวอย่างในแคมเปญ Thai Fest 2020 ที่เป็นหนึ่งในแคมเปญที่พีคที่สุดของแบรนด์ไทย ที่ Pinkoi จะจัดขึ้นทุกๆปี โดยทีมงานจากทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น ไต้หวัน ฮ่องกงมาเก๊า ญี่ปุ่น จีน จะโปรโมทแต่สินค้าแบรนด์ไทยให้ลูกค้าประเทศนั้นๆ ได้รู้จัก เป็นแคมเปญที่เพิ่มยอดขายให้แบรนด์ไทยมากที่สุดแคมเปญหนึ่ง
หรือการรีวิวสินค้าแบรนด์ไทยจากประสบการณ์ลูกค้าจริงชาวญี่ปุ่นที่วาดภาพออกมาได้น่ารักสุดๆ
การขายสินค้าดีไซน์บน Pinkoi จะมีโอกาสได้ร่วมมือดีไซน์สินค้ากับกับคาแรคเตอร์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้กับแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักในนานาชาติมากขึ้น เช่นปีที่แล้วเราได้ร่วมมือกับ Peanuts หรือ Snoopy ที่ครบรอบ 65 ปี เรามาดูแบรนด์ไทย “Cometo” ที่ได้ออกแบบสินค้ากับคุณ Snoopy กัน …เป็นที่นิยมกับแฟนคลับลูกค้าต่างชาติแบบสุดๆ ! น่ารักใช่มั้ยล่ะ 🙂
มาดูสิ่งที่สองที่คุณต้องมีในการพาแบรนด์บุกตลาดนานาชาติ ขายของออนไลน์ไปต่างประเทศกัน
2/ มีช่องทางที่รองรับการชำระเงินที่สะดวกกับลูกค้าในแต่ละประเทศ
ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินที่สะดวกผ่านแพลตฟอร์ม Pinkoi ได้หลากหลาย เช่น AliPay, LinePay, บัตรเครดิต, Mobile-banking, หรือผ่าน ATM เป็นต้น ลูกค้าไต้หวันยังสามารถสั่งซื้อผ่าน App Pinkoi และชำระค่าสินค้าผ่าน counter service ที่ 7-11 ไต้หวันได้ด้วยนะ สะดวกสุดๆ ! โดยทางแบรนด์จะได้รับรายได้ทั้งหมดจาก Pinkoi เป็นรายเดือนผ่านบัญชี Payoneer ค่ะ …อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่
3/ Pinkoi มีทีมงานที่เชี่ยวชาญในการทำการตลาดนานาชาติ
ถ้าคุณได้ดูการโปรโมทผ่านช่องทางต่างๆในข้อแรก คุณจะเห็นได้ว่าทีมงานของเราในหลายๆ พื้นที่ตั้งใจทำงานกันมาก ในการช่วยผลักดันงานดีไซน์ไทยให้เติบโตไปสู่ระดับนานาชาติอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นเรายังมีทีมงานที่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำในการพัฒนาและขยายแบรนด์ไทยสู่ตลาดเอเชียอย่างเต็มที่ ให้คุณได้ขายของออนไลน์ไปต่างประเทศได้อย่างราบรื่นๆ
ทีมงานของเราจะคอยอัพเดทสถานการณ์ต่างๆในต่างประเทศ เทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคในพื้นที่ต่างๆ ผ่าน Webinar หรือ Workshop เพื่อเป็นข้อมูลให้แบรนด์ไทยวางแผน พัฒนา และผลิตสินค้าออกมาตามเทรนด์และความต้องการ ณ ตอนนั้นได้ทันท่วงที …นอกจากนั้นเรายังมีการจัดกิจกรรมพบปะชุมชนดีไซเนอร์แบรนด์ไทยในทุกปี คุณจะได้เพื่อนและคอนเนกชั่นมากมายเพื่อการร่วมมือระหว่างแบรนด์ได้ในอนาคตอีกด้วย !
อีกข้อดีที่น่าสนใจของการขายสินค้าบน Pinkoi คือ แบรนด์ของคุณจะสามารถมีช่วง Peak Season ได้หลายครั้งในหนึ่งปี เช่น ช่วงฤดูร้อนของลูกค้าไทยและไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น จะต่างกัน ของไทยจะเป็นช่วงเมษายน แต่ฤดูร้อนของลูกค้าไต้หวันจะเป็นช่วง กค. – สค. ทำให้เราขายสินค้าสำหรับฤดูร้อนได้เป็นช่วงเวลาที่ยาวขึ้น เป็นต้น
4/ Pinkoi Market เปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยได้สัมผัสและพูดคุยกับลูกค้าที่เป็นแฟนคลับตัวจริงในต่างแดน
นอกจากการขายสินค้าออนไลน์แล้ว Pinkoi ยังมีจัด offline event เช่น pop-up shop และ Pinkoi Market ในประเทศต่างๆ คุณจะได้ไปออกบู๊ธในต่างประเทศเช่น ไต้หวัน ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และญี่ปุ่น เพื่อให้คุณได้พบเจอพูดคุยกับลูกค้าชาวต่างชาติที่เป็นแฟนคลับของคุณจริงๆ …ลองมาดูบรรยากาศ Pinkoi Market ที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวันในปี 2019 กัน
- ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2020 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน Pinkoi Market in Bangkok#2
ที่ร่วมมือกับหน่วยงาน Bangkok Design Week 2020 โดยคุณสามารถดูบรรยากาศกิจกรรม
ได้ทาง วิดิโอ และ รูปภาพ นี้ได้เลย !
สิ่งสุดท้ายที่ต้องมีการการขยายแบรนด์ ขายของออนไลน์ไปตลาดต่างประเทศ…
5/ การมีระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการจัดการหน้าร้านของคุณและระบบต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศเพื่อการขายของออนไลน์ไปต่างประเทศอย่างราบรื่น
การะมีระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพช่วยให้คุณจัดการหน้าร้านได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าโปรโมชั่น ส่วนลดที่หลากหลายได้ด้วยตัวเองเพื่อกระตุ้นยอดขายของแบรนด์คุณ เครื่องมือโฆษณา pinkoi ที่จะทำให้คุณได้รับข้อมูลสถิติ รวมทั้งการแนะนำ Keywords หลายภาษาที่ช่วยเรื่อง SEO ทำให้ลูกค้าเสิร์ชพบหน้าสตูดิโอของคุณง่ายขึ้น จากทั้งบน Pinkoi และการเสิร์ชจาก Google เพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นของสินค้าของคุณบน Pinkoi
อีกเรื่องสำคัญคือ ระบบอัพเดทสถานะการจัดส่งระหว่างประเทศเพื่อช่วยเหลือแบรนด์และลูกค้าในการติดตามสถานะพัสดุที่ถูกจัดส่งข้ามประเทศ …คุณสามารถดูสรุปอันดับสินค้าขายดีประจำเดือน และการแจ้งเตือนเมื่อสินค้าหมดสต๊อก รวมทั้งมีตารางสรุปรายได้รายเดือนที่สามารถตรวจสอบได้ในทันทีอีกด้วย
ทีมงานสรุปอีกครั้งสำหรับ 5 สิ่งสำคัญ เมื่อแบรนด์ไทยอยากขายของออนไลน์ไปต่างประเทศ ที่ Pinkoi จัดให้ครบ สนับสนุนคุณเต็มที่ในทุกๆด้าน เพื่อความสะดวกสบายในการขายสินค้า และขยายตลาดกลุ่มลูกค้า ให้แบรนด์ของคุณเติบโตไปด้วยกันกับ Pinkoi
1/ การมีช่องทางการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซท์, โซเชียลมีเดียยอดนิยมในแต่ละประเทศ ช่องทางการโปรโมทแบรนด์ผ่านสื่อ (media) และ Influencer ชื่อดังของต่างประเทศ
2/ มีช่องทางที่รองรับการชำระเงินที่สะดวกกับลูกค้าในแต่ละประเทศ
3/ Pinkoi มีทีมงานที่เชี่ยวชาญในการทำการตลาดนานาชาติ
4/ Pinkoi Market เปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยได้สัมผัสและพูดคุยกับลูกค้าที่เป็นแฟนคลับตัวจริงในต่างแดน
5/ การมีระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการจัดการหน้าร้านของคุณและระบบต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศเพื่อการดำเนินการที่ราบรื่น
เริ่มต้นขายของออนไลน์ไปต่างประเทศได้ง่ายๆ บนแพลตฟอร์ม Pinkoi ..ลงขายสินค้าไม่ยากเลย มีเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น !
(1) อ่านรายละเอียดการเปิดสตูดิโอเพื่อขายสินค้าบน Pinkoi ที่นี่ คลิก “เปิดสตูดิโอบน Pinkoi” และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
(2) ทีมงาน Pinkoi จะทำการตรวจสอบใบสมัคร และตอบกลับผลการสมัครภายใน 7 วันผ่านอีเมลล์และ SMS
(3) ผู้สมัครรอรับอีเมลล์และ SMS แจ้งผลการสมัคร ในการเปิดสตูดิโอเพื่อลงขายสินค้าบน Pinkoi
*เพื่อการเปิดสตูดิโอที่สมบูรณ์ กรุณาทำตามขั้นตอนที่แจ้งทางอีเมลล์
ถ้าคุณอ่านมาจนถึงตรงนี้ ยินดีด้วยค่ะ คุณสามารถขายของออนไลน์ไปต่างประเทศได้ทันที ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ เพราะแพลตฟอร์ม Pinkoi จัดมาให้ครบจริงๆ เพื่อ mission ของเราในการพาสินค้าดีไซน์ให้เติบโตไปสู่ระดับนานาชาติ สร้างแบรนด์คุณภาพหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค ให้งานดีไซน์เติมเต็มชีวิตในแบบที่ต้องการ
*หากคุณมีความสนใจในการขายของออนไลน์ไปต่างประเทศ สามารถอ่านรายละเอียดและสมัครลงขายสินค้า (ฟรี) บน Pinkoi ได้ที่นี่ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงขายสินค้าบน Pinkoi สามารถสอบถามทีมงานได้ทาง email: th-dr@pinkoi.com นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ทีมงาน Pinkoi thailand