จริงๆ แล้ว เรื่องอาหารการกินก็คืองานดีไซน์ประเภทหนึ่ง เนื่องจากผู้สร้างสรรค์ทำอาหาร ทำกาแฟเครื่องดื่ม จะต้องดีไซน์รสชาติด้วย เพื่อแสดงตัวตนของแต่ละคนออกมาในอาหารที่ทำและเครื่องดื่มที่ชง
และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานอีเวนต์นั่นคือ เรื่องของกินนั่นแหละ Pinkoi Market ครั้งนี้จึงได้เชิญชวนร้านกาแฟและร้านอาหารมาพบคุณด้วยที่ Pinkoi Market เพื่อเพิ่มสีสันให้ภายในงานมีหลายรสชาติมากยิ่งขึ้น และแต่ละร้านก็จะได้เตรียมสิ่งใหม่ๆ และเมนูสุดพิเศษมาให้คุณชิมเป็นที่แรกในงานนี้ด้วย
นอกจากนั้น สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้องานดีไซน์ในงาน Pinkoi ผ่าน APP จะได้รับคูปองจากทาง Pinkoi และสามารถนำคูปองไปแลกอาหารฟรีที่บูธอาหารด้วยนะ เรามาดูกันว่าบูธอาหารและเครื่องดื่ม 6 ร้านมีความพิเศษอะไรบ้าง และได้เตรียมอะไรใหม่ๆ ที่จะมาพบกัน
1.Ink & Lion
หากคุณเป็นสายกาแฟคงจะรู้จักร้าน Ink & Lion เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ร้านกาแฟที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเอกมัย เป็นร้านขวัญใจของผู้คนในย่านใจกลางเมือง นอกจากเป็นร้านกาแฟแล้วยังเป็นแกลอรี่แสดงผลงานศิลปะด้วย ครั้งนี้ ร้าน ink & Lion ได้เตรียมเมนูพิเศษเป็น Boba Honey Milk tea ที่จะมาพบกัน จำหน่ายเฉพาะที่งาน Pinkoi Market ด้วยนะ
และคำว่า Boba (波霸) เป็นคำทับศัพท์ที่มีความหมายว่า “ขนาดใหญ่” ซึ่งชานมไข่มุกที่ไต้หวันจะมีสองขนาด ขนาดใหญ่จะเรียกว่า “ปัวป้า” (波霸)ส่วนขนาดเล็กเรียกว่า เจินจู(珍珠) แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบเคี้ยวไข่มุกหนึบหนับแบบใหญ่หรือเล็ก~
นอกจาก Boba Honey Milk tea ยังมี Signature ของร้าน Ink & Lion นั่นคือกาแฟดริป และเมล็ดกาแฟที่คั่วเองด้วย~
✨ แต่ละวัน Ink & Lion จะมี Boba Honey Milk Tea 30 แก้วฟรี สำหรับคนที่สั่งซื้อสินค้างานดีไซน์ผ่านแอพ Pinkoi ลูกค้าสามารถไปแลกคูปองได้ที่บูธ Pinkoi นะคะ
2. Craft Bread
ขนมปังของแบรนด์ Craft Bread ใช้แป้งออร์แกนิคโฮลวีท 100% และไม่ผสมแป้งขาว ไม่ใส่นมวัว และไข่ด้วย
งานคราฟ์ไม่ใช่แค่งานศิลปะ แต่เป็นงานที่อาศัยความปราณีตและพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ เพื่อให้ผลงานแต่ละชิ้นสวยงามและทรงคุณค่า ซึ่งขนมปังของ Craft Bread ก็ถือว่าเป็นงานคราฟท์ด้วย
Craft Bread เอง ก็พร้อมและตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้มาออกงาน Pinkoi Market และตระเตรียมเมนูที่พิเศษในครั้งนี้ คือ คุกกี้โอ๊ตดาร์คช็อคโฮลวีท 100% ที่ผสมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ วอลนัท อัลมอนด์และแครนเบอร์รี่เน้นๆ ใช้แป้งออร์แกนิคโฮลวีทล้วน และยังมีดาร์คช็อคโกแล็ตความเข้ม 58% ที่ให้ความหวานกำลังดีใส่เพิ่มเติมเข้ามาด้วย เป็นคุกกี้ที่เหมาะสำหรับทานคู่กับชาและกาแฟร้อนๆ มากที่สุด~ (สั่งกาแฟจากบูธข้างๆ ได้นะ)
?ในแต่ละวันจะมีคุกกี้โอ๊ตดาร์คช็อคโฮลวีท 30 ชิ้นฟรีที่สนับสนุนจาก Craft Bread ให้กับลูกค้าที่ได้สั่งซื้อสินค้างานดีไซน์ผ่านแอพ Pinkoi ลูกค้าสามารถไปแลกคูปองที่ได้บูธ Pinkoi และไปชิมคุกกี้ที่ดีต่อสุขภาพได้เลยนะคะ
3. Guss Damn Good
Guss Damn Good ไม่ใช่แบรนด์ไอศครีมทั่วไป แต่เป็นนักออกแบบรสชาติไอศครีมต่างหาก Guss Damn Good ได้ออกแบบรสชาติตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของซัมเมอร์ ระหว่างครอบครัวและชีวิต เป็นรสชาติที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และได้นึกถึงสิ่งดีๆ ในความทรงจำ Guss Damn Good ไม่เคยตั้งข้อจำกัดให้กับตัวเองในการคิดรสชาติใหม่ของไอศครีม ทำให้มีรสชาติใหม่ๆ ออกมาที่สร้างความแปลกใจและเซอร์ไพรส์ลูกค้าอยู่เสมอ
สำหรับครั้งนี้ Guss Damn Good จะนำรสชาติใหม่ที่ยังไม่เคยจำหน่ายที่ไหน มาให้คุณได้ชิมในงาน Pinkoi Market เป็นครั้งแรก (ตื่นเต้นมากเลย)
?ยิ่งไปกว่านั้น Guss Damn Good ได้เตรียม Classic Flavor ที่จะแจกให้ลูกค้าที่สั่งซื้องานดีไซน์ผ่าน Pinkoi APP ด้วยนะ ลูกค้าสามารถไปแลกคูปองที่ได้บูธ Pinkoi นะคะ แต่ละวันจะมีความอร่อยจำกัดแค่ 30 ถ้วยเท่านั้นนะ
4. Good Food Good Soul
อาหารโฮมเมดที่มีจุดเริ่มต้นจากการทำขนมปังที่อบจากยีสต์ธรรมชาติ เส้นอุด้งที่นวดเองกับมือ เครื่องดื่มคอมบูชาที่หมักเอง อาหารโฮมเมดของ Good Food Good Soul เป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายแล้วและยังดีสำหรับจิตใจด้วย
สำหรับเมนูพิเศษที่จะจำหน่ายที่งาน ขอเก็บเป็นความลับก่อน แต่ที่มั่นใจว่าใครได้กินแล้วจะต้องมีความสุขแน่ๆ~ ที่สำคัญมีจำนวนจำกัด รีบมาชิมก่อนหมดนะ
?และอย่าลืมสั่งซื้องานดีไซน์ผ่าน Pinkoi APP แล้วไปแลกคูปองอาหารที่บูธ Pinkoi เพื่อมารับน้ำคอมบูชาที่มีให้ฟรีถึง 30 แก้วเลยนะ
รอบพิเศษ! Good Food Good Soul Workshop
มาทำ Howebrewed Kombucha กัน~
นอกจากนั้น ร้าน Good Food Good Soul ยังได้จัดเวิร์คช็อปสอนทำคอมบูชาเองในวันที่ 1 – 2 ธันวาคมที่ Pinkoi Market คนที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดและทำการลงทะเบียนผ่านลิงก์นี้นะคะ (ไปลงทะเบียนทันที)
5. Laliart Coffee
คอนเซ็ปต์สำหรับร้าน Laliart Coffee คือการดีไซน์รสชาติของอาหารและกาแฟ โดยไม่ปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติม เพราะให้ความสำคัญของวัตถุดิบและเคารพรสชาติที่แท้จริงจากตัวตนของสิ่งนั้น ๆ ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อได้ลงมือทำแล้ว คงไม่ได้ง่ายเท่าที่คิดนะ~
ร้าน Laliart Coffee ได้เตรียมเมนูกาแฟ เพื่อมางาน Pinkoi Market นี้โดยเฉพาะ ความพิเศษอยู่ที่การใช้เมล็ดกาแฟ Klohaki (โกลฮาคี) ที่ได้ผ่านการคัดสรรและได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 เมล็ดกาแฟพิเศษของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผสานการใช้วิธีสกัดเย็น 18 ชั่วโมง เพื่อดึงรสชาติและกลิ่นออกมา ผสมกับไซรัปขิงที่ทางร้านได้ทำขึ้นเอง ช่วยเพิ่มความสดชื่น ด้วยรสเปรี้ยวเล็กน้อยจากมะนาวฝานบาง
?ส่วนอีกเมนูพิเศษที่เตรียมจะแจกให้ลูกค้าที่สนับสนุนงานดีไซน์คือ “Lychee Ginger Ale” จำนวน 30 แก้วฟรีที่จะให้กับลูกค้าที่สั่งซื้องานดีไซน์ผ่าน Pinkoi APP ด้วยนะ ไปแลกคูปองที่บูธ Pinkoi ได้เลย
6. Fahfah Station
เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความสดใส ด้วยตัวคาแรกเตอร์ของแบรนด์ Fahfahs ที่เห็นแล้วจะได้ยินคำว่า “น่ารัก” ตามมา
ครั้งนี้แบรนด์ Fahfahs ได้เข้าร่วม Pinkoi Market ทั้งในฐานะร้านเครื่องดื่มและดีไซเนอร์จำหน่ายสินค้างานดีไซน์ด้วย ในบูธ Fahfah Station จะมีจำหน่ายชานมไข่มุก ขนมต่างๆ และมีสินค้าดีไซน์ของ fahfahs ขายด้วย เช่น ไดอารี่ เคส สติ๊กเกอร์ ที่สำคัญมีสินค้าใหม่ที่เป็นมาสกิ้งเทปและสมุดปฏิทินด้วยนะ แฟนคลับของ fahfahs ห้ามพลาดเลยล่ะ
?และครั้งนี้ยังมีชานมไข่มุก 30 แก้วที่จะมอบให้กับ design lover ที่ทำการสั่งซื้อผ่านแอพ Pinkoi ลูกค้าสามารถไปแลกคูปองที่ได้บูธ Pinkoi นะคะ
ไม่ว่าคุณเป็น Food Lover หรือว่า Design Lover หรือว่าเหมาทั้งสองอย่าง ก็จะได้พบความสุขในงาน Pinkoi Market แน่นอน~~
▶Pinkoi Market in Bangkok 1st time!
งานดีไซน์ทั่วเอเชียจะไหลมารวมกันที่แม่น้ำเจ้าพระยาในวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2561 ณ. ล้ง 1919 (ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนฯ)
สายน้ำไม่เคยไหลกลับ งานดีไซน์ก็ไม่ไหลกลับเช่นกัน และวันนี้ งานดีไซน์ทั่วเอเชีย ได้ไหลมาบรรจบกันที่แม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเป็นครั้งแรก!
▶ รายละเอียดของงาน Pinkoi Market
・วันที่:01/12/2018 (ส.) ~ 02/12/2018 (อา.)
・เวลา: 13.00 – 20.00 น.
・สถานที่: LHONG 1919
・ติดตามอีเวนต์เพจ Pinkoi Market in Bangkok เพื่อรับข่าวสารล่าสุด
・เปิดดูเว็บไซต์เพื่อดูรายชื่อดีไซเนอร์ทั้งหมด 50 แบรนด์ ที่เข้าร่วมงาน Pinkoi Market