IG Story เปิดตัวในปี 2016 และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนแซงหน้าการแชร์โพสต์ในรูปแบบข้อความ มีฟีเจอร์และลูกเล่นหลากหลายให้ผู้ใช้เลือกครีเอทคอนเท้นท์ ให้ผู้ติดตามมีส่วนร่วมมากขึ้นแบบเรียลไทม์ และเกิดความรู้สึกร่วมและอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือกิจกรรมนั้นๆ ที่สำคัญยังช่วยให้เกิดความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และลูกค้ามากขึ้นด้วย
วันนี้แอดมินจะมาอัปเดตเทคนิคการตลาดที่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณให้มีส่วนร่วมและเกิดการรับรู้แบรนด์ พร้อมแจกเคล็ด(ไม่)ลับ ลงสตอรี่ยังไงให้ลูกค้าไม่กดข้าม และแนะนำฟีเจอร์ที่ช่วยให้แบรนด์สร้างสรรค์สตอรี่ได้สนุกขึ้น ไปดูกันเลยค่ะ!
ทำไมต้องทำ Instagram Marketing? ข้อดีของ IG Story ฟีเจอร์ที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม
IG Story สามารถเพิ่มการเติบโตทางธุรกิจได้มากขนาดไหน? จากข้อมูลสถิติและผลการศึกษาจาก Instagram ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน IG Story มากว่ากว่า 500 ล้านคนต่อเดือนทั่วโลก โดยลูกค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่รับรู้ข้อมูลของแบรนด์ผ่าน Story และมีพฤติกรรมที่เปิดรับคอนเทนต์ในรูปแบบโฆษณาที่สูง นอกเหนือจากนี้ยังมีข้อมูลสถิติที่เป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดีเยี่ยมถึงประโยชน์ของการทำการตลาดบน Instagram
- 90% ของผู้ใช้ Instagram ติดตามโปรไฟล์แบรนด์หรือธุรกิจอย่างน้อย 1 โปรไฟล์
- 58% ของผู้ใช้รู้สึกสนใจแบรนด์หรือสินค้ามากขึ้นเมื่อเห็นบน Story
- กว่า 50% ของผู้ใช้เคยแชร์โปรไฟล์แบรนด์และสินค้าที่เห็นบน Story
90% ของผู้ใช้ติดตามโปรไฟล์แบรนด์/ธุรกิจอย่างน้อย 1 โปรไฟล์ | 58% บอกว่ารู้สึกสนใจแบรนด์หรือสินค้าเมื่อเห็นผ่าน Story | 50% เคยแชร์โปรไฟล์แบรนด์และสินค้าที่เห็นใน Story |
เลือกอะไรดีระว่าง IG Post / Story / Reels?
Story | Post | Reels | |
ลักษณะกลุ่มเป้าหมาย | ผู้ใช้งานที่ชอบคอนเทนต์บันเทิงที่มีเนื้อหาเบาๆ เน้นไลฟ์สไตล์ ยินดีที่จะมีส่วนร่วมและให้ฟีดแบคกับแบรนด์แบบเรียลไทม์ | ผู้ใช้งานที่ติดตามคอนเท้นต์ในหัวข้อเฉพาะหรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ให้ความสำคัญกับเรื่องราวของแบรนด์และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ | ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบคอนเทนต์ที่เน้นความบันเทิง แฟชั่นและติดตามเทรนด์ มักชอบดูวีดิโอสั้นๆ |
การแสดงผล | ปานกลาง-สูง (ดีมาก) | ปานกลาง | สูง (ดีมาก) |
การมีส่วนร่วม | สูง (ดีมาก) | ปานกลาง-ต่ำ | ปานกลาง |
ข้อดี | 1. อัตราการเข้าถึงผู้ติดตามสูงที่สุด เหมาะสำหรับการแชร์คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเบาๆ หรือเรียลไทม์คอนเทนต์ 2. มีเครื่องมือหลายแบบให้ใช้สร้างตัวตนและโชว์ความสร้างสรรค์ เช่น ฟีลเตอร์ อีโมจิ หรือสร้างอินเทอร์แอคทีฟสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าด้วยแบบตอบคำถามหรือ Poll ฯลฯ 3. แปลง Story highlight เป็นคลิป Reels ได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อให้อยู่บนหน้าโปรไฟล์ของแบรนด์แบบถาวร | 1. อัตราการถูกมองเห็นสูงและอยู่บนหน้าโปรไฟล์แบบถาวร 2. สามารถใส่แฮชแท็กที่เข้ากับเนื้อหาหรือเทรนด์ เพื่อกระตุ้นการมองเห็นและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าใหม่ค้นพบแบรนด์ของคุณ | 1. สามารถสร้างคลิปวิดีโอสั้นที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชม 2. มีอิสระในการครีเอท สามารถเข้าถึงเครื่องมือตัดต่อที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็กต์ปรับแต่งภาพและเสียงที่หลากหลายให้เลือกใช้ 3. มีข้อได้เปรียบในด้านการแสดงผลในหน้าการค้นหา สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่กว้างขวางและหลากหลายกว่ารูปแบบอื่น |
แชร์สินค้าของแบรนด์บน IG Story ง่ายๆ แค่คลิกเดียว!
หากต้องการแชร์สินค้าของแบรนด์ผ่าน Instagram และ Facebook อันดับแรกให้เปิดแอป Pinkoi แล้วแตะปุ่มแชร์ที่มุมขวาบนของหน้าจอ จากนั้นเลือกธีมเทมเพลตของ Pinkoi ที่ต้องการใช้ เท่านี้ก็สามารถแชร์แบรนด์และสินค้าของคุณบน Story แล้วค่ะ!
Step 1 : เปิดแอป Pinkoi แล้ว log-in ด้วยบัญชีผู้ขาย (ต้องอัปเดตแอป Pinkoi ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนนะ)
Step 2 : เปิดหน้าสินค้าหรือหน้าสตูดิโอในแอปแล้วแตะปุ่มแชร์ที่มุมขวาบนของหน้าจอ จากนั้นเลือกธีมเทมเพลตของ Pinkoi ที่ต้องการใช้ได้เลย
Step 3 : หลังจากที่กดปุ่มแชร์ไปยัง IG หรือ FB ระบบจะลิงก์ไปยังแอปเป้าหมายโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณพร้อมแชร์ Story
Step 4 : เทมเพลตที่แชร์จะไม่มีลิงก์ติดมาด้วย ดังนั้นอย่าลืมวางลิงก์จากในแอปก่อนแชร์นะคะ ที่สำคัญอย่าลืมแท็ก IG ของ Pinkoi เพื่อให้เราโปรโมทสินค้าของคุณด้วย!
เท่านี้ก็ถือว่าแชร์สำเร็จแล้วค่ะ!
5 คอนเทนต์ช่วยสร้างการโต้ตอบให้แก่ IG Story!
IG Story ถือเป็นฟีเจอร์ที่สามารถสร้างอินเทอร์แอคทีฟที่ดีที่สุด สามารถทำให้ลูกค้าและผู้ติดตามรู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์ผ่านลูกเล่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจฟีดแบคของลูกค้าที่มีต่อสินค้า โพสต์แนว Poll หรือ Quiz โพสต์ตอบคำถาม หรือแค่ลูกค้ากดไลก์ Story ก็เป็นการทำให้แบรนด์และลูกค้าใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้วค่ะ
ไอเดียโพสต์ที่ช่วยสร้าง Interactive และเพิ่มยอด Engatement
1.โพสต์พรีวิวสินค้าใหม่/โปรโมทสินค้า
คอนเทนต์โปรโมทสินค้าถือเป็นคอนเทนต์ที่พบบ่อยใน IG Story เราสามารถปรับแต่งโพสต์ด้วยลูกเล่นที่สร้างสรรค์ได้อย่างสนุกสนาน เช่น อีโมจิ แบบสำรวจ หรือโพสต์ตอบคำถามเพื่อดึงดูดความสนใจ กระตุ้นให้คนคลิกและมีส่วนร่วมโต้ตอบกับแบรนด์มากขึ้น
หากต้องการให้โพสต์ใน Story อยู่ในหน้าหลักแบบถาวรก็สามารถตั้งให้เป็น Highlight หรือสร้างให้เป็น Reels ได้เหมือนกันค่ะ คราวนี้ก็ไม่ต้องเสียดายว่าโพสต์ไปแล้วจะไม่มีคนเห็น แถมลูกค้าเก่าและใหม่ก็ยังสามารถเห็นโพสต์สำคัญของคุณบนหน้าหลักได้ตลอดอีกด้วย
2.จัดแคมเปญ/แจกส่วนลด/ Flash sale
จุดเด่นของ IG Story คือ สามารถกระตุ้นการมองเห็นและให้ผู้ติดตามเข้าถึงโพสต์ได้ง่าย เหมาะสำหรับแบรนด์ที่จัดโปรโมชั่น แจกส่วนลด หรือ Flash sale บ่อยๆ ยิ่งถ้าแบรนด์เน้นการโปรโมทในรูปแบบ “จำกัดเวลา/จำนวน” ก็จะยิ่งกระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น
3.คอนเทนต์กระตุ้นให้มีส่วนร่วมและกดแชร์
วิธีนี้คล้ายกับ 2 วิธีข้างต้นเลยค่ะ สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- สร้างการมีส่วนร่วม: การหยิบประเด็นหรือเรื่องราวที่น่าสนใจขึ้นมาตั้งคำถามและพูดคุย นอกจากจะเป็นการสำรวจและเก็บข้อมูลของลูกค้าแบบอ้อมๆ แล้วยังทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดแบรนด์ยิ่งขึ้นด้วย
- การร่วมสนุก แจกรางวัล: การสร้างคอนเทนต์ประเภทแจกรางวัลหรือส่วนลด เช่น คูปองส่วนลดสำหรับสินค้าใหม่แบบจำกัดจำนวน สุ่มรายชื่อผู้โชคดีเพื่อรับรางวัล ฯลฯ โดยมีเงื่อนไขให้แชร์โพสต์ไปยังสตอรี่ นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ถูกเห็นมากขึ้นแล้วยังสามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีแนวโน้มจะสั่งซื้อด้วย
4.โพสต์เบื้องหลังการทำงาน Behind The Scene
สร้างโพสต์แนวแชร์เบื้องหลังการทำงานตั้งแต่การสร้างแบรนด์ แนะนำผลิตภัณฑ์ แนะนำพนักงาน เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมโยงและสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรของแบรนด์ วิธีนี้ช่วยสร้างความเชื่อใจและความใกล้ชิดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์
5.โพสต์รีวิวสินค้า
ถือเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงแทบจะทุกแพลตฟอร์มเลยก็ว่าได้ การรีโพสต์ไอจีสตอรี่ของลูกค้าช่วยทำให้ตัวตนของแบรนด์น่าเชื่อถือและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ทริคเพิ่มความน่าสนใจให้โพสต์ เปลี่ยน Engagement เป็นยอดขาย
➊ แปะลิงก์ + สติ๊กเกอร์ GIF
แต่งสตอรี่ให้เด่นสะดุดตาด้วย GIF ดุ๊กดิ๊กๆ ด้วยการไปที่ GIF → ค้นหาคำว่า ลิงก์, ซื้อ, ภาษาจีน หรือคีย์เวิร์ดอื่นๆ
➋ ใช้ฟีเจอร์ Question, Poll, Emoji Slider, Quiz, Countdown
นอกจากการใส่ลิงก์และสติ๊กเกอร์แล้ว เรายังสามารถเพิ่มความสนุกสนานให้โพสต์ด้วยการใช้ลูกเล่นต่างๆ เช่น โพสต์ตอบคำถาม โพสต์แบบสำรวจ โพสต์สไตล์ Interactive sticker หรือสไลด์เดอร์รูปอิโมจิน่ารักๆ
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างคะกับไอเดียแต่ง Story ที่เรานำมาฝาก การใช้ IG Story ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการโปรโมทและช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น แถมยังกระตุ้นยอดขายได้ดีด้วย ที่สำคัญต้องอย่าลืมโพสต์ให้สม่ำเสมอด้วยนะคะ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและกระตุ้นยอดขายให้ปังอย่างที่ต้องการ!
หากมีคำถามหรือมีทริคใหม่ๆ แชร์กับเราที่ใต้คอมเมนต์ได้เลย!หรือหากสนใจวางขายสินค้าดีไซ Pinkoi คลิกที่นี่